วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2559

เพิ่มความสูงให้เด็กง่ายๆด้วยบาร์โหน ตอนที่ 1

                                             
                                             
เพิ่มกล้าม


 ไมได้ว่าหรือบางทีอัลเบิร์ตอาจเป็นคนจัดวางเรื่องบังเอิญนี้เองก็ได้นะ เป็นครั้งแรกหลังจากคืนที่เขาตาย ที่ผมลัมผัสถึงการมาของเขาว่าเป็นกระแสที่อบอุ่นยิ่ง หรือนี่คือการสวมกอดจากโลกวิญญาณ? เพราะบันให้ความรู้สึกแบบนั้นเลยคือรู้สึกเหมือนกับว่านาทีนั้นเขามาอยู่กับผมด้วย ผมมองสูงขึ้นไปแล้วก็เพิ่งเห็น...โดยบังเอิญ...ว่าตัวเองมาหยุดรถใกล้กับต้นไฟคัสต้นใหญ่เก่าแก่ที่เราลองคนเคยนั่งใต้ร่มเงาของบันมาหลายปี ก่อนวันที่อัลเบิร์ตจะเปิดดวงวิญญาณของเขาและบอกเล่าความละอายใจให้ผมรับรู้นั่นเองผมขับรถกลับบ้านด้วยหัวใจที่เต็มเปียมไปด้วยกระแสอบอุ่นไปทั้งตัว รู้สึกสดชื่นและอุ่นใจนัก เนื้อเพลงช่วยเตือนใจให้ผมนึกถึงเรื่องบวกหลายอย่างที่อัลเบิร์ตเคยพูดให้ฟัง นี่เป็นการเตือนใจจากโลกวิญญาณใช่ไหมหนอ?

ตัวผมเองยังสงลัยไม่ปักใจเชื่อ แต่ถึงบันจะเป็นแค่เรื่องบังเอิญหรือไม่ใช่ก็ตาม ก็ไม,สำคัญอะไร ผมมองโลกแง่ดีมากขึ้นกว่าเดิมแล้ว และความรู้สึกนี้แหละที่ช่วยชีวิตผมไว้ได้สองสามวันต่อมา ผมตกลงใจจะไปโบสถ์เพื่อไปสวดมนต์เสียหน่อย ยามที่ผมมองย้อนอดีตกลับไปก็คิดได้ว่าตัวเองคงหวังว่าจะเจอสัญญาณที่แน่นอนกว่าและยิ่งใหญ่กว่านี้กระบัง ผมคิดว่าหากจะมืที่ไหนที่อัลเบิร์ตสามารถติดต่อผมได้ก็น่าจะเป็นที่โบสถ์นี่แหละ อัลเบิร์ตเป็นคนพาผม โหนบาร์ ไปในปี 1993 ที่จริงบันไม่ใช่โบสถ์แท้หรอกครับ เป็นห้อง ออกกำลังกายลดหน้าท้อง ลวดมนตํในคอนแวนต์ของเหล่าแม่ชีถือเงียบซึ่งท่านขายขนมปังทำเอง สถานที่นี้ไม่เหมือนที่ไหนในลอลแอนเจลิสเลย คือเป็นดั่งโอเอซิสเล็กจ้อยอันแสนสงบเย็นอยู่     ใจกลางฮอลลีรู้ดถัดจากไวน์ออกไปนาทีที่ผมก้าวเข้าไปในห้องสวดมนต์ความรู้สึกทั้งหลายก็ท้นใจผมจนเริ่มร้องไห้ออกมา ความทรงจำมันท่วมท้นไปหมด ใจนึกถึงความเจ็บปวดทั้งหลายที่อัลเบิร์ตต้องทนรับไว้ตลอดชั่วชีวิตที่เกิดมา ผมรู้ดีว่าเขาต้องรู้สึกปวดร้าวสักปานไหนที่ปลิดชีวิตตัวเองหลังจากลวดมนต์อยู่หนึ่งชั่วโมง ผมก็ตรงไปที่รถ แล้วแม่ชีสูงอายุท่านหนึ่งก็เดินเข้ามาหาผม ท่านเป็นแม่ชีคนเดียวในคอนแวนต์ที่ได้รับอนุญาตให้พูดได้ นอกนั้นถือศีลเงียบหมดทั้งวัด ท่านถามว่าทำไมถึงร้องไห้ ผมตอบท่านว่าเพื่อนรักของผมฆ่าตัวตาย ท่านจำอัลเบิร์ตได้ว่าเป็นคนที่ชอบเข้ามาสวดมนต์คนเดียวบ่อยๆ นั้นเอง“เขาคงต้องทุกข์มากเลยนะลูก” ท่านเอ่ยคำ ผมตอบว่าเขาทุกข์จริงๆ แล้วแม่ชีท่านก็พูดแผ่วเบาว่า “เราทุกคนล้วนแต่ทุกข์ทั้งสิ้น”ผมเผ่าคิดถึงช่วงเวลานั้นมาหลายปีทีเดียว คิดถึงประโยคที่มีแปดพยางค์'นั้น เราทุกคนล้วนแต่ทุกข์ทั้งสิ้น ผมไม่ได้สัญญาณที่มองหาอยู่ก็จริง แต่คำพูดของแม่ชีติดอยู่ในใจผมตลอดมา จนผมเริ่มสงสัยแล้วว่าหรือความทุกข์ทั้งหลายเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการชำระล้างของจักรวาล เมื่อเวลาผันผ่าน ผมก็เริ่มเชื่อแล้วว่าจริง หากเราทั้งหลายเป็นเซลล์หนึ่งเซลลํในร่างของพระเจ้า

และล้วนเกี่ยวข้องเชื่อมโยงถึงถันหมดในจักรวาลนี้จริงความทุกข์ก็อาจทำหน้าที่แบบที่ตับทำงานในร่างกายเรานั้นเองนั้นคือบางทีความทุกข์ช่วยชำระล้างจิตที่ยิ่งใหญ่กว่าก็ได้นะครับ   สัญญาณรักตัวผมเพิ่งมาเข้าใจได้กระจ่างเอาตอนนี้เองว่าคน!.ราต่างทุกข์ไม่เท่ากัน ในอดีตผมเคยเชื่อว่าคนทุกคนล้วนทุกข์ในอัตราเท่าเทียมกันหมด เคยนึกว่าสิ่งที่เราแต่ละคนรู้สึกว่าเจ็บปวด นั่นละคือความทุกข์แล้ว และกับเราแต่ละคนก็ย่อมรู้สึกว่าทุกข์นั้นยิ่งนุ. เแแนดยคิดเอาเอง'ว่าคนคนหนึ่งไม่อาจเปรียบเทียบความทุกข์ของตัวกับคนอื่นได้ว่าใครมากกว่าใคร ด้วยเหตุผลบางอย่างมันสมดุลของมันเอง คือทุกข์เท่าเทียมกันถ้วนหน้า ผมเคยเชื่อว่าคนที่ทนรับทุกข์ได้น้อยกว่าคนอื่นก็ย่อมรู้สึกว่าตัวทุกข์มากเหลือเกิน ส่วนคนที่ยิงเจอทุกข์มากก็จะยิ่งทนทานกับมันได้มากขึ้นเท่านั้น แต่วันนี้ผมไม่เชื่ออีกแล้วว่ากฎจักรวาลจะเป็นอย่างนี้จริงคนบางคนต้องเจอเรื่องทุกข์มากกว่าคนอื่นจริงๆครับอย่างกรณีผม ผมทุกข์มากกว่าคนธรรมดาทั่วไปเขาเจอกัน แต่ผมก็แข็งแกร่งขึ้นจากความทุกข์นั้นแน่นอนผมหวังใจว่าอยากถ่ายทอดความรู้นี้ไปถึงผู้อื่นที่กำลังทุกข์อยู่ผมเองแน่ใจแล้วว่าการที่เราต้องเจอทุกข์นั้นมีความหมายและวัตถุประสงคํในตัวของ บาร์โหนราคาถูก มันเอง หากตัวผมจะสามารถฉายแสงสว่างให้คนคนหนึ่งได้มีความหวังมีความศรัทธาต่อล้ต่อไปในช่วงเวลาแห่งความทุกข์แล้วละก็ เรื่องนี้แหละครับที่สำคัญยิ่งกว่าการเล่าเรื่องประสบการณ์วิญญาณอีกสถานการณ์ต่างๆ เหตุบังเอิญนานา หรือลัญญาณจากโลกวิญญาณ ล้วนมายาเตือนผมให้นึกถึงอัลเบิร์ตเสมอ มีเหตุการณ์หนึ่งที่เกิดในเดือนตุลาคมปี 1994 ตอนที่ผมกำลังรู้สึกแข็งแรงขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย ผมไปเข้าร้านขายของมือลองซื่อว่า รู้สึกดีเวลาที่ได้ออกจากบ้านบ้าง บาร์โหนทำเอง สนุกมากครับเวลาได้เข้าร้านมือลอง เพราะผมชอบตอนไปคุ้ย ๆ รื้อ ๆ ของที่ไม่ลมประกอบหรือของทิ้งแล้วของคนอื่นด้วยหวังว่าจะเจอชิ้นถูกใจที่มืค่าสำหรับเราบ้าง ของใช้แล้วดูมืเสน่ห์สำหรับผมมากกว่าของใหม่เสียอีก ตอนผมกำลังคุ้ยหาอยู่ พนักงานร้านกำลังขนของแล้วเข็นกล่องยักษ์ใส่หนังสือสามกล่องเข้ามาพอดี ผมแว่บไปมองนิดหนึ่งแต่เห็นกระดูกสันหลังว่าไม่น่าสนใจ คนขายพูดขึ้นมาว่าเขาเพิ่งเอาหนังสือกล่องหนึ่งไปทิ้งถังขยะ เพราะมันชำรุดเกินกว่าจะเอามาขาย เขาบอกว่าถ้าอยากได้ก็ให้ผมไปเอาได้เลย

บาร์โหน