วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ในยุคโลกาภิวัต มองอะไรก็เป็นนิพานไปซะหมด

ไม่ว่าโลกเขาพูดเขากระทำอะไร รู้ตามได้หมด แต่เห็นจิตตนเองสงบนิ่งอยู่ ไม,ต่างอะไรกบพรหมหรือเทวดา มองดูความโกลาหลของสังคมมนุษย์“รู้ว่ารู้” นั้นจะต้องผ่านวิปัสสนาญาณแน่นอน แต่ทว่าจะไม่
ผ่านการแยก ธาตุ ขันธ์ หรือ อายตนะ อย่างมากจิตก็ไม่หวั่นไหวกับเหตุการณ์ทั้งดีและชั่ว ใหญ่หรือเล็ก
แต่ทว่าโปรดสังเกตว่า “รู้ว่ารู้” นี้จะมองดูโลกในสายตาของตัวตนบุคคล สามารถมองเห็นโลกทิพย์ สามารถเห็นอดีตหรือมอง'ไปหมด มีลักษณะคล้ายมีแก้วหรือกำแพงศักดิไเทธี้ครอบจิตเอาไว้ แทนที่จะเห็นความจริงเพิ่ม กลับเห็นความลวงเพิ่ม คือ คอยไปดูความลวงในชาติก่อนได้อีกด้วยท่านพุทธทาสภิกขุกล่าวว่า  สระน้ำเป่าลมในบ้าน ถ้าเราเห็นสัจจธรรมตามธรรมชาติอย่างแท้จริง เราก็ไม่ต้องเปลี่ยนตนเองจากคนธรรมดาไปเป็นคนพิเศษเพราะโดยความจริงแท้ ความเป็นคนนั้นไม่มีอยู่แล้ว การบรรลุธรรมที่เปลี่ยนคนเป็นคนพิเศษจึงเป็นการคาดเดาของผู้มีตัวตนมากกว่าการบรรลุธรรมจริงๆ เพราะการบรรลุธรรมที'แท้จริง คือ การเห็นความจริงแล้วก็กลับมามีชีวิตธรรมดาเหมือนเติม เสมือนทราบแล้วว่าชีวิตคือ ภาพยนต์ที่จิตของเราสร้างมาเอง“กรรมปีอยู่ ผู้รับกรรมหาปีไม่”บาปมิตรก็คือ เมื่อตนเองไม่สามารถเห็นสัจจธรรมขั้นสูง เช่นไม่เคยประว้กษ์ “รู้ซื่อๆ” “รู้ไม่ติดป้าย” หาว,ารู้ซือๆ ทำลายศาสนาอีกด้วย เพราะพุทธศาสนาสายเถรวาทเน้นยํ้าอภิธรรม ได้แก่ รูปกัลยาณมิตรบานมิตรจิต เจตสิก นิพพาน ใครที่ “รู้ซื่อๆ” แจกแจงธาตุ ขันธ์ อายตนะไม่ได้ เลยเหมาว่า “คิดเอาเอง’’บาปมิตรถัดมาคือ การที่ตนเองเห็นโลกาภิวัตน์ มองอะไรเป็นตัวตน อ่างน้ำสูบลมเด็ก  นิพพานก็เป็นตน และมองเห็นว่าจิตของตนสุขสบาย ทุกอย่างต้องเป็นตามนี้ เลยปฏิเสธการบรรลุธรรมอย่างอื่นหมด มองอวิชชาของตนไม่ออกว่า มันกำลังสร้างตัวตนครอบตัวตนสระว่ายน้ำเด็กเล็ก เพื่อ'Iหได้1ตัวตนที่วิเศษกว่าผู้อื่น มันก็คือตัณหาธรรมดาอย่างหนึ่งบาปมิตรถัดมาก็คือ ถ้าหากตนพิจารณาธาตุได้ ก็ไม่พยายามเปิดช่องให้ผู้ที่พิจารณาขันธ์ หรืออายตนะบ้าง จะให้ทุกคนพิจารณาตามตนไปเสียหมดบาปมิตรถัดมาคือ ผู้ที่ปฏิเสธว่าปริยัติไม่สำคัญเพราะตนเองบรรลุธรรมทั้งแต่ยังอ่านหนังลือไม่ออก ใครอ่านมากเขียนมาก ก็ไปนับว่าเป็น ปัญญาเฉโกหมด ตัดสินผู้อื่นจากลักษณะภายนอกที่ต่างจากตนเท่านั้นคนที่บรรลุธรรมและเห็นสัจจธรรมนั้น ย่อมน่าจะเห็นว่าพื้นฐานของความเป็นโลกแท้จริงคือ สระน้ำเป่าลมราคาถูก“ธรรม” แต่เป็น “ธ'รรม” ในความหมายสิ่งที่เรียกว่าโลกแท้จริงแค่เป็นเม็ดทรายของธรรมจักรวาล“ธรรม” เป็นเบื้องด้นใครจะขนานนามธรรมว่า “รู้’’ “จิตเดิม’’“จิตว่าง” “พุทธจิต” “สุญญตา” มันก็ยังรวมอยู่ในคำว่า “ธรรม”พุทธบริษัทควรเปิดใจกว้าง ศึกษาคำว่า “ธรรม” และ “ธรรม”นี้ถ้าสมมติเป็นโลกียธรรม (ภายใต้สมมติของกาลเทศะ) และโลกุตร-ธรรม (เหนือสมมติของกาลเทศะ) ถ้าสมมติถันแล้วโลกุตรธรรม คือ

สระน้ำเป่าลมกลางแจ้ง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น